ประวัติความเป็นมาบริษัท

        ปี 2529 "นาย ชัยศรี สัชฌะไชย" มองเห็นโอกาสของการประกอบธุรกิจ โรงงานผลิตครั่งเม็ดที่ลำปาง เนื่องจากลำปางเป็นจังหวัดที่มีการเพาะปลูกครั่งมากที่สุดในประเทศไทย จึงทำการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นด้วยเงินทุนจดทุนทะเบียน 10 ล้านบาท 

        ปี 2536 ครั่งเม็ดนั้นเป็นสินค้าส่งออกไปยังต่างประเทศ การส่งออกนั้นจำเป็นที่จะต้องกระทำผ่านนายหน้า เนื่องจากการติดต่อสื่อสารยังเป็นเรื่องยาก ทำให้มีข้อจำกัดหลายอย่าง  ทั้งเรื่องการกดราคาของนายหน้ารวมทั้งโอกาสทางการค้าทางบริษัทจึงได้มีความพยายามที่จะทำการส่งออกเอง โดยสามารถทำการส่งออกเองได้ครั้งแรกในปี 2536 โดยตลาดส่งออกแรกอยู่ที่อเมริกาแล้วตามมาด้วยญี่ปุ่นจึงส่งผลให้ทางบริษัทสามารถเปิดตลาดได้กว้างขึ้น

        ปี 2540 เป็นปีที่ประเทศไทยประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจอย่างรุนแรงโดยรัฐบาลสมัยนั้นใช้ นโยบายกระตุ้นการส่งออกเพื่อนำเงินตราเข้าประเทศ นโยบายหลักตอนนั้นคือการใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวพร้อมลดค่าเงินบาท ทำให้ผู้ส่งออกสามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้ เป็นอย่างมากส่งผลให้ทางบริษัทสามารถเพิ่มสัดส่วนการตลาดพร้อมทั้งขยายกำลังการผลิตขึ้น

        ปี 2545 ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 10 ล้านบาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท

        ปี 2549 บริษัทได้ทำการปรับปรุงโรงงานและกระบวนการผลิตอีกครั้งโดยได้นำเอาเครื่องมือและเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการผลิตมากขึ้นส่งผลให้สามารถลดจำนวนแรงงานที่ใช้ รวมทั้งเพิ่มกำลังการผลิตอีกด้วย

        ปี 2550 เนื่องจากการติดต่อสื่อสารที่ดีขึ้นทำให้ทางบริษัทสามารถขยายตลาดได้มากขึ้นจึงทำการขยายกำลังการผลิตอีกครั้งโดยได้มีการเพิ่มเครื่องจักรในการผลิต สร้างลานตากสินค้า พร้อมโกดังเก็บสินค้าใหม่โดยสามารถผลิตครั่งเม็ดได้มากกว่า 2,000 ตันต่อปี

        ปี 2554 ทางบริษัทได้ทำการขยายกิจการเพิ่มในอีกสายหนึ่งคือ โรงงานรับซื้อพืชไร่ ใน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานครั่งเดิมประมาณ 15 กม. โดยเป็นโรงงานมาตรฐาน รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่ออบแห้งส่งโรงงานอาหารสัตว์ รวมทั้งรับซื้อมันสำปะหลังเพื่อผลิตมันเส้นและในปัจจุบันขยายธุรกิจเพิ่มในการทำฟาร์มวัวเนื้อโคขุน พร้อมทั้งเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทจำนวน 10 ล้านบาท รวมเป็น 30 ล้านบาท

        ปี 2557 ทางบริษัทได้เล็งเห็นความสำคัญของการต่อยอดวิจัยพัฒนาจึงเริ่มทำการศึกษาวิจัยการผลิตเชลแลคเกล็ดชนิดสกัดแวกซ์ออกสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมไม้ อาหาร และเครื่องสำอางขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าและสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมโดยเริ่มทำการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในปี 2558 และแล้วเสร็จ ปี 2559 ด้วยกำลังการผลิตเชลแลคสูงสุดกว่า 500 ตันต่อปี